ทนายเสื้อแดงเข้าขอขมาศาล ให้ข่าวสื่อผิดพลาด กรณีฎีกาเพิ่มโทษ ‘ดีเจต้อย’

ทนายความจำเลย คดีเผาศาลากลางจังหวัดยอมรับความผิดพลาด กรณีให้ข่าวสื่อมวลชนว่า ศาลฎีกาเพิ่มโทษ ให้ประหารชีวิตนายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย แกนนำเสื้อแดงอุบลฯ ทั้งที่คำพิพากษาจริง คือ จำคุกตลอดชีวิต โดยเข้าพบผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขอขมาแล้ว

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลัง นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม ออกมาระบุกรณี ศาลจังหวัดอุบลราชธานีได้อ่านคําพิพากษาศาลฎีกา เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 58 คดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จังหวัดอุบลราชธานี นําโดย นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา หรือดีเจต้อย พร้อมพวก รวม 20 คน ซึ่งเป็นจําเลยในการก่อเหตุวางเพลิงเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้น ศาลฎีกาไม่ได้มีการลงโทษจำเลยที่ 1 นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ให้ต้องโทษประหารชีวิต ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเพราะที่ถูกต้องศาลฎีกาได้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

ซึ่งต่อมานายวัฒนา จันทศิลป์ ทนายความจำเลยคดีเผาศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผู้ให้ข่าวแก่สื่อมวลชนในวันนั้น หลังศาลอ่านคำพิพากษา กล่าวยอมรับว่า ตนให้ข้อมูลคำตัดสินของศาลฎีกาผิดพลาด เป็นความเข้าใจผิดของตนเอง ซึ่งไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดความเคลื่อนไหวหรือเข้าใจผิด เพราะวันนั้นมีจำเลยมาฟังคำพิพากษาพร้อมกันหลายคน ศาลใช้เวลาอ่านคำพิพากษาประมาณ 2 ชั่วโมง ทำให้ตนเองเกิดความสับสน จึงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนผิดพลาด กรณีการลงโทษจำเลยที่ 1 นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ว่าลงโทษประหารชีวิต แต่ที่ถูกต้องคือ จำคุกตลอดชีวิต

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการนำเสนอข่าวทางสื่อสิ่งพิมพ์และทีวีออกไปทำให้เกิดความเข้าใจผิด ทั้งนี้ เมื่อนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม ออกมาระบุว่า ศาลฎีกาไม่ได้มีการลงโทษจำเลยที่ 1 นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ให้ต้องโทษประหารชีวิต ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอข่าวเพราะที่ถูกต้องศาลฎีกาได้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

นายวัฒนา จันทศิลป์  กล่าวเพิ่มเติมว่าตนเองได้รับโทรศัพท์สอบถามในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เมื่อมาอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว ศาลไม่ได้มีการลงโทษจำเลยที่ 1 นายพิเชษฐ์ ทาบุดดา ให้ต้องโทษประหารชีวิต ก็ยอมรับผิดกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งต่อมาได้เดินทางไปพบนายสัญญา จีระออน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อกราบขอโทษและขอขมาต่อศาล ที่ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนคลาดเคลื่อนไป โดยไม่มีเจตนาและขอยอมรับผิดซึ่งนายสัญญา จีระออน ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุบลราชธานี ได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผิดกฎหมาย ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก