Business

100 คำสอน สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้ข้อคิดดีมากๆ สาธุๆๆ

คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 1 ชีวิต  มนุษย์ ที่ แปลอย่างหนึ่งว่า ผู้มีจิตใจสูง คือ มีความรู้สูง ดังจะเห็นได้ว่าคนเรามีพื้นปัญญาสูงกว่าสัตว์ดิรัจฉานมากมาย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 2  คำว่า ชีวิต มิ ได้มีความหมายเพียงแค่ความเป็นอยู่แห่งร่างกาย แต่หมายถึงความสุข ความทุกข์ ความเจริญ ความเสื่อม ของบุคคลในทางต่างๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 3  เรา เกิดมาด้วยตัณหา ความอยากและกรรมเพื่อสนองตัณหาและกรรมของตนเอง ตัณหาและกรรมจึงเป็นตัวอำนาจหรือผู้สร้างให้เราเกิดมา




คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 4  ความเปลี่ยนแปลงของชีวิต หรือของโลกเป็นทุกข์ประจำชีวิตหรือประจำโลกไม่เป็นเรื่องแปลกประหลาดอันใด


































คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 5  ชีวิตคนเรา เติบโตขึ้นมาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความเมตตากรุณาจากผู้อื่นมาตั้งแต่เบื้องต้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 6  ตนรักชีวิตของตน สะดุ้งกลัวความตายฉันใด สัตว์อื่นก็รักชีวิตตนและสะดุ้งกลัวความตายฉันนั้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 7  คติธรรมดาที่ไม่มีใครเกิดมาในโลกนี้ จะหนีไปให้พ้นได้ ก็คือ ความแก่ ความตาย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 8  การฆ่าตัวตาย เป็น การแสดงความอับจนพ่ายแพ้หมดหนทางแก้ไข หมดทางออกอย่างอื่น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 9  การแก้ปัญหาของคนเรา ถ้า ป้องกันไว้ก่อนแก้ไม่ทัน ก็แก้เมื่อปัญหายังเล็กน้อยจะง่ายกว่า
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 10  มารดา บิดา เป็นทิศเบื้องหน้า ครู อาจารย์ เป็นทิศเบื้องขวา บุตรภรรยา เป็นทิศเบื้องหลัง มิตรสหาย เป็นทิศเบื้องซ้าย คนรับใช้หรือผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นทิศเบื้องต่ำ สมณพราหมณ์เป็นทิศเบื้องบน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 11  เมื่อมองไปเบื้องหน้า ไม่มีบิดา-มารดาเป็นที่ยึดเหนี่ยว มองไปเบื้องขวาก็ไม่พบครู-อาจารย์ที่จะอบรมแนะนำ มองไปเบื้องหลังก็ไม่พบญาติพี่น้องผู้หวังดี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 12  การเลี้ยงดูเด็กให้เติบโต ควร ทำความเข้าใจว่ามี 2 อย่าง คือเลี้ยงร่างกาย เลี้ยงดูจิตใจ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 13  ในการแก้ปัญหาเยาวชน บุคคลที่เป็นทิศสำคัญๆ ทุกฝ่ายของเยาชน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 14  คนวัยรุ่น กำลังเจริญด้วยพลัง กำลังทะยานกายทะยานใจ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 15  ไม่ควรเชื่อใจตนเองเกินไป เพราะอาจไม่มีเหตุผล ถ้าใจนั้นถูกบังคับหรือท่วมทับเสียแล้ว
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 16  ผู้ที่มีความคิดน้อย ย่อมนิยมชมชื่นในปัญญาแห่งมนุษย์ในปัจจุบัน และเหยียดดูถูก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 17  คนเราทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องทำต้องพูดอยู่ทุกๆวัน เด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีสติ เมื่อทำอะไรพูดอะไรไปแล้ว ก็ระลึกได้ว่าได้ทำอะไรหรือพูดอะไรผิดหรือถูกเรียบร้อยหรือไม่เรียบร้อย เป็นต้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 18  คนที่เมา ประมาทขาดสติ ขาดสัมปชัญญะ อาจผิดศีลได้ทุกข้อ อาจทำชั่วทำผิดได้ทุกอย่าง และเมื่อประมาทเสียแล้วก็เป็นคนหลงอย่างเต็มที่
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 19  คนที่ถือกำเนิดเป็นคนนั้น ยังไม่จัดเป็นคนโดยสมบูรณ์ เพราะเหตุเพียงเกิดมามีรูปร่างเป็นคน ต่อเมื่อมีการปฏิบัติ ประกอบด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสมกับความเป็นคน จึงเรียกว่าเป็น คนโดยธรรม
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 20  คนเราโดยมาก มีภายนอกและภายในไม่ตรงกัน เช่นภายนอกรักษามารยาทอันดีต่อกัน แต่ภายในคิดไม่ดีต่อกัน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 21  คนที่มุ่งประโยชน์เฉพาะตน เท่านั้น ไม่เกื้อกูลใคร เป็นจำพวกเห็นแก่ตนโดยส่วนเดียว
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 22  โดยปกติคนเรา ย่อมมีหมู่คณะและถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 23  คนที่ฉลาด ย่อมมีความคิดยาวออกไปถึงกาลข้างหน้า ทำในสิ่งที่ให้ประโยชน์สำหรับเด็กๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 24  คนหนึ่งๆ มีหน้าที่หลายอย่าง เมื่อเรารู้จักหน้าที่ของตนดีอยู่และปฏิบัติให้เหมาะแก่หน้าที่
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 25  ไม่ควรมองออกไปแต่ภายนอก แต่ ควรมองเข้ามาดูภายในด้วย คือภายในครอบครัว
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 26  คนโดยมาก มักเข้าใจผิดในผลของความดี คือมักไปเข้าใจผลพลอยได้ว่าเป็นผลโดยตรง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 27  ผู้ให้อภัยง่าย ก็คือ ไม่โกรธง่ายนั่นเอง ดังนั้น ผู้ที่ปรารถนาจะฝึกจิตให้ไม่โกรธง่าย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 28  คนดี  อันคนที่ทำงานที่เป็นคุณให้ เกิดประโยชน์ย่อมจะต้องประสบถ้อยคำถากถาง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 29  การที่จะให้ใครช่วยเหลือทำอะไร ต้องเลือกคนที่มีปัญญา ที่รู้จักผิดถูก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 30  คนเรานั้น นอกจากจะมีปัญญาแล้ว ยังต้องมีความคิดอีกด้วย จึงจะเอาตัวรอดได้จากอันตรายต่างๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 31  คนโง่นั้น เมื่อยังยอมอาศัยปัญญาของคนฉลาดอยู่ ก็ยังพอรักษาตนอยู่ได้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 32  คนที่อ่อนแอ ย่อมแพ้อุปสรรคง่ายๆ ส่วนคนที่เข้มแข็งย่อมไม่ยอมแพ้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 33  ธรรมดาผู้เป็นปุถุชน ความปรารถนาต้องการย่อมบังเกิดขึ้นได้เสมอ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 34  วิธีดับความปรารถนาต้องการ ก็คือ หัดเป็นผู้ให้บ่อยๆ ให้เสมอๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 35  มีคนไม่ใช่น้อยที่เรียนรู้มากมาย อะไรดีอะไรชั่ว รู้ทั้งนั้น แต่ไม่ทำดี หรือทำก็ทำสิ่งไม่ดี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 36  พระพุทธศาสนา สอนให้คนเข้าใจในกรรมนั้นไม่ได้สอนให้คนกลัวกรรม
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 37  ทุกคนในโลกต่างต้องถ้อยทีต้องพึ่งอาศัยกันในทางใดทางหนึ่งทั้งนั้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 38  หน้าที่ของคนเรา ที่จะพึงปฏิบัติต่อชีวิตร่างกาย คือบริหารรักษาให้ปราศจากโรค
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 39  คนที่มีบุญนั้น บุญย่อมคอยจ้องที่จะเข้าช่วยอยู่แล้ว เพียงแต่เปิดโอกาสให้เข้าช่วย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 40  คนที่ทำดีไม่น้อย เป็นทุกข์เพราะการทำดีของตน ที่ไม่กล้าที่จะทำดีก็มี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 41  ความดีนั้น เกิดจากกรรม (การงาน) ที่ดี ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 42  อันความดีนั้นย่อมเป็นอาภรณ์ เป็นอิสริยยศ (ยศคือความเป็นใหญ่) ของคนดี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 43  กรรม แปลว่า กิจที่คนกระทำ คำว่า ทำ หมายถึงทั้งทำด้วยกาย อันเรียกว่ากายกรรม
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 44  ความเชื่อกรรม ถ้าเชื่อให้ถูกทาง ก็จะแก้ความเชื่อโชคลางต่างๆ ได้เป็นอันมาก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 45  ทางพระพุทธศาสนาสอนให้ทุกๆ คนพิจารณาให้ทราบหลักกรรมเนืองๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 46  ทุกๆ คนทำกรรมใดไว้ กรรมนั้นย่อมให้ผลในปัจจุบันบ้าง ในภายหน้าบ้าง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 47  คนมีอำนาจเหนือกรรม อาจควบคุมกรรมของตนได้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 48  ผู้ที่ทำกรรมดีอยู่มากเสมอๆ จึงไม่ต้องกลัวกรรมชั่วในอดีตหากจะมีกุศลของตน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 49  ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อกรรมของตนเองจะป้ายไปให้คนอื่นไม่ได้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 50  พระพุทธศาสนาแสดงเรื่องกรรมไว้ เพื่อให้รู้ว่า กรรมเป็นเหตุวิบาก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 51  คนส่วนมากยังมีความเชื่อว่ามีผู้ดลบันดาลให้เกิดสิ่งต่างๆขึ้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 52  กรรมคือการอะไรทุกอย่างที่คนทำอยู่ทุกวันทุกเวลา
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 53  กรรมเก่า คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และมโนหรือใจ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 54  ตา หู มิใช่จะมีไว้เฉยๆ ต้องดูต้องฟังแล้วก็ให้เกิดกิเลส
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 55  เวร คือความเป็นศัตรูกันของบุคคลสองคนหรือสองฝ่าย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 56  เวร เกิดจากความผูกใจเจ็บแค้นของบุคคลที่สอง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 57  อันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่ชีวิต มีอยู่เป็นอันมากที่บังเกิดขึ้นโดยไม่รู้ไม่คิดมาก่อน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 58  พื้นแผ่นดิน แม่น้ำ ภูเขา ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ คนเรามีปัญญาถมทำให้เป็นถนน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 59  ทุกคนต้องการความสุข ความสบายใจด้วยกันทั้งนั้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 60  การเพ่งดูผู้อื่นทำให้ตนเองไม่เป็นสุข
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 61  ความดิ้นรนเพื่อให้ได้สมดังความปรารถนาต้องการ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 62  ทุกข์ แปลว่า สิ่งที่ดำรงคงอยู่ได้ยาก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 63  ในภาษาไทย เมื่อพูดว่าทุกข์ก็หมายกันว่าคือความไม่สบายใจ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 64  เรื่องที่เป็นความไม่สบายกาย ไม่สบายใจทั้งหมด
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 65  พระพุทธเจ้าได้ตรัสเตือนให้เกิดสติขึ้นว่าความทุกข์นี้มีเพราะความรัก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 66  อันความรักหรือที่รัก เมื่อผู้ใดมีร้อยหนึ่ง ผู้นั้นก็มีทุกข์ร้อยหนึ่ง รักเก้าสิบ แปดสิบ เจ็ดสิบ หกสิบ ห้าสิบ เป็นต้น จำนวนทุกข์ก็มีเท่านั้น ถึงแม้มีรักเพียงอย่างหนึ่ง ก็มีทุกข์อย่างหนึ่ง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 67  ทางออกจากทุกข์นั้นคือ ต้องรับรู้ความจริงต้องป้องกันมิให้ถลำลึกลงไปในทางแห่งทุกข์
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 68  ชีวิตในชาติหนึ่งๆ กับทั้งสุขทุกข์ต่างๆ เกิดขึ้นเพราะกรรมที่แต่ละตัวตนทำไว้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 69  การที่จะดูว่าอะไรดีหรือไม่ดี ต้องดูให้ยืดยาวออกไปถึงปลายทาง มิใช่ดูเพียงครึ่งๆ กลางๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 70  บุญแปลตามศัพท์ว่า ชำระ ฟอกล้าง ท่านแสดงว่าแบ่งเป็น 2 ส่วน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 71  กุศล แปลว่ากิจของคนฉลาด หมายถึงความดีเช่นเดียวกับบุญ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 72  ความดี มีอยู่ที่ตัวเราเอง ซึ่งเป็นคนดีขึ้นเพราะทำดี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 73  เมื่อทำดีก็ได้ผลดีทันที เมื่อทำชั่วก็ได้ผลชั่วขึ้นทันที
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 74  การให้ทานมีความหมายอย่างกว้างว่าการสละบริจาคสิ่งของอะไรแก่ใครๆ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 75  ทานคือการให้ การสละกำจัดความโลภ ทานที่นับว่าจะอำนวยผลอันไพบูลย์
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 76  ศีลเป็นตัวปกติภาพของคนโดยแท้แต่คนโดยมาก มักควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 77  เมื่อจักถือศีลก็ไม่ต้องไปที่ไหนอื่น ถือที่กายวาจา จิตนี้แหละ วัดก็ดี ป่าก็ดี
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 78  ศีลธรรม สามารถระงับภัยต่างๆ ได้แน่โดยเฉพาะภัยที่คนก่อให้เกิดแก่กันเอง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 79  พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนให้ทุกคนมีศีลและมีจิตใจงาม
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 80  ข้อวิตกว่าถือศีลไม่ร่ำรวยนั้น ไม่ร่ำรวยในทางสุจริตจริง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 81  ที่ว่าถ้ามัวถือศีลธรรมจะอยู่ในหมู่คนไม่ได้ จะต้องหลบไปอยู่คนเดียวนั้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 82  ศีลและธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความไม่ประมาทศีลเป็นเหตุให้งดเว้นไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 83  การหัดทำสมาธิอยู่เสมอให้จิตได้สมาธิที่ดีขึ้น และออกไปทำงานก็ใช้สมาธิในการทำงาน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 84  พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนให้พิจารณาดูตัวเองดูกาย ดูวาจา ดูใจ ดูจิตตนเองเหมือนอย่างใช้แว่นส่อง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 85  เมื่อปฏิบัติหัดจิตให้น้อมมาในทางกุศลแล้วคือตรึกนึกคิดตริตรองมาในฝ่ายกุศลมาก
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 86  อาหารที่เป็นของจิตโดยตรงนั้น ก็คือธรรมที่เป็นคุณเกื้อกูล
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 87  ความเมตตา เป็นธรรมที่ทำให้คนเรามีคุณธรรม เมตตาคือความคิดปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 88  เมตตา ความมีจิตเย็นสนิทด้วยความปรารถนาสุขแก่ผู้อื่นสัตว์อื่น เป็นความรักที่เย็นสนิท
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 89  เมตตากรุณาเป็นความรู้สึกตรงกันข้ามกับความโกรธ การเจริญเมตตาจึงเป็นการแก้
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 90  วิธีปลูกเมตตาคือคิดตั้งปรารถนาให้เขาเป็นสุข และคิดตั้งปรารถนาให้เขาปราศจากทุกข์นั้นเป็นกรุณา
คำสอนสมเด็จพระสังฆราช ที่ 91  ชีวิตของทุกคนดำรงอยู่ได้ด้วยอาศัยเมตตากรุณาของผู้อื่นมาตั้งแต่เบื้องต้น
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 92  พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนว่า ทรงมีพุทธานุภาพให้ผู้นับถือไปรบใครแล้วก็ชนะ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 93  พระพุทธเจ้าได้ทรงชนะ คือทรงชนะพระหฤทัยของพระองค์แล้ว
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 94  ผู้ชนะนั้นมักเข้าใจว่า ตนเองเป็นผู้ได้ แต่โดยที่แท้เป็นผู้เสีย
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 95  ทางที่ถูก ควรจะเอาชนะอุปสรรคในทางที่ชอบและพยายามรักษาส่งเสริมความดีของตน
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 96  โดยมากอุปสรรคต่างๆ เป็นเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยไม่มีสาระ
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 97  มารแปลว่า ผู้ฆ่า ผู้ทำลายล้าง มารข้างนอกคือผู้มุ่งทำลายล้างข้างนอก




คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 98  ความดีที่จะทำให้สำเร็จการชนะนั้น ก็ต้องใช้ปัญญาค้นหา
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 99  สมัยนี้มีผู้ชอบกล่าวว่า เงินไม่มี เกียรติไม่มีนั่นไม่ใช่ความถูกต้อง
คำสอนสมเด็จพระสังฆราชที่ 100  การรักษาเกียรติเป็นการรักษาธรรมอย่างหนึ่งจะก้าวหน้าหรือถอยหล้งด้วยเกียรติ
100 คำสอน สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้ข้อคิดดีมากๆ สาธุๆๆ 100 คำสอน สมเด็จพระสังฆราชฯ ให้ข้อคิดดีมากๆ สาธุๆๆ Reviewed by Aohyi Gamer on 15:38 Rating: 5
ขับเคลื่อนโดย Blogger.